อัพเดทล่าสุด 14/08/2023
การเคลือบรถยนต์ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามมีความสำคัญมากสำหรับผู้ที่มีรถ เพราะการเคลือบรถยนต์ ด้วยการเคลือบประเภทต่าง ๆ จะเป็นตัวช่วยเพิ่มความดูดีให้แก่รถคันโปรดของท่านได้เสมอ การ ดูแลรถสีขาว และสีอื่นๆ ให้ฉ่ำวาว สวยงาม เสมือนดาวรถออกมาใหม่อยู่ตลอดเวลา ด้วย เคลือบสีรถ มีกี่แบบ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงดูแลสีรถ และพื้นผิวของรถให้คงสภาพความเงางาม ฉ่ำวาว เหมือนได้มาใหม่สีสดใส
ทำให้สภาพสีรถมีความแข็งแรงทนทาน การเคลือบสีรถที่ดีก็แค่เพียงครั้งเดียวก็จะเป็นตัวช่วยที่สามารถรักษาสภาพความเงางามของรถคันโปรดได้อย่างยาวนาน ตั้งแต่ 1 ปีเป็นต้นไปกันเลยทีเดียว โดยปัจจุบันนวัตกรรมการดูแลพื้นผิวและรักษาสีผิวของรถยนต์ ให้คงสภาพดูเหมือนใหม่ตลอดเวลา ก็สามารถทำได้หลักๆ ประเภทด้วยกัน รวมไปถึงราคาก็จะมีความแตกต่างกันออกไป เราก็ไม่พลาดที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ การเคลือบสีรถ มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไรตามไปดูกันได้เลย
1. เคลือบเงารถ ประเภทแว็กซ์
การ เคลือบเงารถ ประเภทแว็กซ์ เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคการเคลือบ ที่หลายคนคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เป็นการเคลือบรถยนต์ที่สามารถทำได้ง่ายที่สุดและมีราคาไม่สูง ช่วยทำให้รถเงางาม สามารถลบรอยขีดข่วนเล็กๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ระยะการเคลือบจะอยู่ได้ไม่นาน เฉลี่ยประมาณ 7 วัน แต่เรียกได้ว่าตอบโจทย์คนที่ชอบความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย ในการเคลือบสีรถยนต์ก็สามารถแบ่งประเภทการ เคลือบสีรถ มีกี่แบบ ประเภทแว็กซ์ ออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน
-
- แว็กซ์เคลือบสีรถแบบครีม หรือ “คาร์นูบาร์แว็กซ์” สามารถหาซื้อได้ง่าย มีราคาถูก แต่อายุการใช้งานจะอยู่ในระยะเวลาแค่เพียงสั้นๆ ไม่สามารถปกป้องสีรถได้นานเท่าไหร่นัก
- Wax เคลือบสีรถยนต์แบบน้ำหรือ “โพลิเมอร์ซีลแลนท์” หรือ “ซินเตติกซีลแลนท์” สามารถทนความร้อนได้ดี สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าแว็กซ์เคลือบสีรถแบบครีมแต่ทำให้สีรถไม่เงาเท่าแว็กซ์แบบครีม
2. เคลือบสีรถ ประเภทน้ำ
การเคลือบสีรถ มีกี่แบบ ประกอบไปด้วยการเคลือบสีรถประเภทน้ำ ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเภท ที่ผู้รักรถทั้งหลาย มักจะเลือกใช้ ซึ่งสามารถที่จะทนต่ออุณหภูมิ ได้สูงสุด 140 องศาเซลเซียสกันเลยทีเดียว จึงเป็นเทคนิคสำหรับเคลือบรถ ที่เป็นตัวช่วยป้องกันสีรถได้ดี และนานกว่าการเคลือบแบบแว็กซ์ เมื่อได้เฉลี่ยแล้ว สามารถอยู่ได้ระยะเวลายาวนานถึง 4 สัปดาห์กันเลยทีเดียว แต่ข้อเสียการเคลือบสีรถประเภทน้ำ ก็คือ ความเงางาม ฉ่ำวาว อาจจะสู้การเคลือบสีรถ ประเภทอื่นๆ ไม่ได้
3. เคลือบสีรถ มีกี่แบบ การเคลือบสีประเภทซิลิโคน
เคลือบสีรถยนต์ ประเภทซิลิโคนเป็นการเคลือบที่เรียกได้ว่ามีข้อดีที่โดดเด่น ก็คือจะมีความเงางาม ฉ่ำวาว เสมือนกับได้รถใหม่ คล้ายกับการเคลือบสีรถแบบแว็กซ์ แต่การเคลือบสีประเภทซิลิโคน สามารถอยู่ได้ยาวนานกว่าอายุใช้งานเฉลี่ยยาวนานถึง 1 ปี จึงมีราคาที่สูงเพิ่มขึ้น อีกทั้งการเคลือบสีรถประเภทนี้ สามารถช่วยป้องกันสีรถได้ดีจากน้ำ รังสี UV และจากฝุ่น แต่ข้อเสียคือไม่สามารถที่จะป้องกันรอยขีดข่วนไม่ได้มากนัก ซึ่งในส่วนนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดี
4. เคลือบแก้วรถยนต์
ดูแลสีรถด้วยการ เคลือบแก้วรถยนต์ เรียกได้ว่าเป็นประเภทสำหรับการ เคลือบสีรถ ที่มีราคาค่อนข้างสูงแต่รับประกันเลยว่ามีคุณภาพดีอย่างแน่นอน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุด สามารถช่วยลดปัญหาคราบสกปรก ฝุ่น สีซีดจากแสงแดด และรอยขีดข่วนได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้การเคลือบแก้วรถยนต์จะเป็นตัวช่วยทำให้รถดูเงางาม ฉ่ำวาวอยู่ตลอดเวลา ข้อเสียก็คืออาจจะมีราคาสูงกว่าการเคลือบสีรถประเภทอื่นๆ เช่นนั้นจึงควรไตร่ตรองให้ดีว่าอยากจะได้แบบไหนมากกว่ากัน
เคลือบแก้ว กับ เคลือบสี ต่างกันยังไง
เมื่อได้ทราบกันไปแล้ว การเคลือบสีรถ มีกี่แบบ ตามมาไขข้อสงสัย การเคลือบแก้ว กับเคลือบสีมีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งจะมีความแตกต่างก็คือ การเคลือบสีผิวรถ ระยะสั้น และระยะยาวมีอายุการใช้งานมากสุดไม่เกิน 1 เดือน แต่สำหรับการเคลือบแก้วจะถือว่าเป็นแบบยาว โดยระยะเวลาอยู่ได้ตั้งแต่ 1-5 ปี ตามประสิทธิภาพของน้ำยา
มีการเคลือบทั้ง 2 แบบ จะเป็นตัวช่วย การดูแลรถ และเป็นตัวช่วยทำให้รถดูเงางาม ฉ่ำวาว เหมือนกัน แต่สิ่งที่มีความแตกต่างก็คือในแง่ของความทนทาน ระยะอายุการใช้งาน มีคุณสมบัติกันลื่นได้อย่างยาวนาน ป้องกันรอยขีดข่วนและคราบต่าง ๆ มีโอกาสที่จะเกิดได้น้อยมากและจะมีในส่วนของเรื่องความเงางามที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เนื่องจากชั้น silica จะทำให้รถดูเงางามสดใส มีความคงทนมากยิ่งกว่าและแน่นอนเลยว่าการ เคลือบแก้วกราฟีน รถยนต์ แม้จะมีราคาสูงกว่าการเคลือบสีธรรมดาแต่จะเป็นตัวช่วยทำให้รถของท่านได้ประโยชน์ที่สูงกว่าปกป้องสีรถได้ดียิ่งกว่าการเคลือบสีธรรมดา