อัพเดทข้อมูลล่าสุด 27/03/2023
ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ในไทยมีความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมอากาศบ้านเราที่ร้อนและแสงแดดที่แรง ทำให้ในปัจจุบันสินค้าฟิล์มติดรถยนต์ มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์มากมาย หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละแบบต่างก็มีคุณสมบัติและจุดเด่นแตกต่างกันออกไป รวมถึงในเรื่องของราคาที่มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น วันนี้ทาง 87Garage ได้รวบรวมยี่ห้อฟิล์มกรองแสง รวมถึงราคาฟิล์มในแต่ละแบรนด์ พร้อมทั้งแนวทางวิธีการเลือกฟิล์มกรองแสง ให้ตรงตามความต้องการของเพื่อนๆ
วิธีเลือกฟิล์มติดรถยนต์

โดยปกติการเลือก ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ผู้ใช้รถหรือผู้ขับขี่มักจะเลือกจากยี่ห้อและราคาเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าฟิล์มรถยนต์รุ่นไหนๆ ก็สามารถกันความร้อนได้ไม่แตกต่างกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติม ในการเลือกชนิดของฟิล์มกรองแสง
1. เลือกจากประเภทและชนิดของฟิล์ม
-
- ฟิล์มกรองแสงแบบปกติ เป็นฟิล์มติดรถยนต์แบบธรรมดาทั่วไป ป้องกันรังสี UV ได้ดีในระดับหนึ่ง มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนและลดปริมาณความร้อนสะสมได้เพียงเล็กน้อย มีราคาไม่สูง เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งสีของฟิล์มจะเริ่มซีดลง
- ฟิล์มกรองแสงแบบปรอท เป็นฟิล์มกรองแสงที่มีลักษณะแวววาว สามารถป้องกันรังสียูวีและสะท้อนความร้อนได้ดี เนื้อฟิล์มกรองแสงมีการย้อมด้วยสีที่มีส่วนผสมของโลหะผสมอยู่ ข้อเสียของฟิล์มชนิดนี้คืออาจทำให้อุปกรณ์ GPS หรือ Easy Pass ใช้งานได้ไม่สะดวก
- ฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบคาร์บอน เป็นฟิล์มติดรถยนต์ที่มีลักษณะพื้นผิวด้าน เนื้อฟิล์มมีส่วนผสมของอนุภาคคาร์บอน ให้คุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ดี มีความทนทานสูง สีฟิล์มมีความเข้มดำ หากเลือกฟิล์มที่มีความเข้มมากเกินไป เมื่อขับขี่ในเวลากลางคืนอาจทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นแย่ลง
- ฟิล์มกรองแสงแบบเซรามิก เป็นฟิล์มติดรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ตัวฟิล์มมีคุณสมบัติป้องกันแสงแดดและรังสีต่างๆ ได้ดีเยี่ยม สามารถลดความร้อนได้สูงถึง 99% นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรง ทนทาน ซึ่งฟิล์มชนิดนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าฟิล์มชนิดอื่นๆ
2. เลือกจากความเข้มของฟิล์ม
การเลือกติดฟิล์มความเข้มกี่เปอร์เซ็นต์ดี 40% 60% 80% นั้นขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย โดยปกติผู้ใช้ส่วนใหญ่เลือกความเข้มแบบไหน มักจะนึกถึงความเป็นส่วนตัวภายในรถเป็นหลัก แต่มีอีกหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาได้แก่ เป็นคนสายตาดีไหม? ขับรถกลางคืนบ่อยไหม? ขับรถต่างจังหวัดบ่อยไหม? หรือต้องการกันความร้อนสูงขนาดไหน?
3. เลือกจากค่าสเปคกันความร้อนของฟิล์ม
ฟิล์มกรองแสงทุกประเภทและทุกแบรนด์นั้น จะมีค่าหลายอย่างที่นำเสนอให้ลูกค้าได้เลือก ซึ่งการอ่านค่าและแปลความหมายของค่าต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกฟิล์ม ทำให้เรารู้ประสิทธิภาพการกันความร้อน ประสิทธิภาพการกันแสง และความเข้มของฟิล์ม
-
- VLT หรือค่าแสงส่องผ่าน คือตัวเลข % ที่บ่งบอกความเข้มของฟิล์ม ยิ่ง VLT มีค่าน้อยแสดงว่าฟิล์มนั้นยิ่งเข้มมาก มีความดำมาก หาก VLT มาก แสดงว่าฟิล์มนั้นมีความใสมากนั่งเอง
- UVR หรือค่าป้องกันรังสียูวี โดยทั่วไปฟิล์มกรองแสงที่มีตามท้องตลาดจะสามารถกันรังสียูวีได้ 99% หรือเกือบ 100% กันหมดแล้ว จึงไม่ได้เป็นคุณสมบัติเด่นแต่อย่างไร ซึ่งการเลือกฟิล์มควรดูฟิล์มที่สามารถกันรังสี UV ได้ไม่ต่ำกว่า 95% เป็นอย่างน้อย
- IRR หรือค่าป้องกันรังสีอินฟราเรด ค่านี้เป็นตัวแทนบ่งบอกถึงการกันรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ ดังนั้นหากอยากจะเลือกฟิล์มกรองแสงที่สามารถลดความร้อนภายในรถยนต์ได้ดี ควรเลือกฟิล์มที่สามารถกันรังสีได้มาก ในเมืองไทยควรเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีระดับค่า IRR ที่ 80% ขึ้นไป
- VLR หรือค่าสะท้อนแสง เป็นค่าที่กำหนดความเงาหรือสะท้อนบนพื้นผิวของฟิล์ม ยิ่ง % การสะท้องแสง VLR มาก ฟิล์มจะยิ่งมีความเงาเหมือนกระจกมาก หรือเรียกอีกอย่างนึงว่าฟิล์มปรอท ซึ่งการสะท้อนแสงมีผลโดยตรงต่อทัศนวิสัย
- TSER หรือค่าลดความร้อนรวม เป็นการรวมการลดความร้อนของรังสี UV ค่าแสงสว่างส่องผ่าน ค่าการป้องกันรังสีอินฟราเรด รวม 3 รังสีเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นค่าที่บอกประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนโดยรวมของฟิล์มกรองแสง ยิ่งค่า TSER สูงแสดงว่าฟิล์มกรองแสงนั้นสามารถกันความร้อนได้ดี
5 อันดับฟิล์มรถยนต์ยอดนิยมที่ดีที่สุด ได้แก่
1. ฟิล์มติดรถยนต์ Lamina
ฟิล์มกรองแสง Lamina Digital CeraMatrix เป็นฟิล์มกรองแสงเซรามิกแท้ รุ่นท็อปสุดของ Lamina มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีสูงที่สุด เป็นฟิล์มที่ให้ความเป็นส่วนตัวให้กับรถของคุณได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับ DigitalBoost ที่เหมาะสำหรับการใช้งานรถ Smart Cat และ Hyvrid ที่มีระบบสั่งการต่างๆ ผ่านสัญญาณดิจิทัลได้อย่างไหลลื่น ไม่รบกวนสัญญาณต่างๆ เช่น GPS ระบบเสียง การสั่งการอัตโนมัติ เป็นต้น
ราคาฟิล์มรถยนต์ Lamina
ติดฟิล์มรถยนต์ราคารอบคันอยู่ที่ประมาณ 22,500 – 34,000 บาท
2. ฟิล์มติดรถยนต์ Hi-Kool
ฟิล์มกรองแสง Hi-Kool เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย มีความโดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการกันร้อนสูง ในราคาที่เทียบเท่ากับแบรนด์หลักอื่นๆ โดยจะมีรุ่นท็อปสุดของแบรนด์เป็นุร่น Super Hi-Kool Beyond Ceramic Series เป็นฟิล์มเซรามิกที่เพิ่มชั้นโลหะ Metallized Ceramic ช่วยให้การลดความร้อนและกันรังสีอินฟราเรดได้ถึง 99% แต่แลกมากับค่าการสะท้อนแสงที่มากกว่าฟิล์มเซรามิกแบรนด์อื่นๆ เช่นกัน
ราคาฟิล์มรถยนต์ Hi-Kool
ติดฟิล์มรถยนต์ราคารอบคันอยู่ที่ประมาณ 16,000 – 19,500 บาท
3. ฟิล์มติดรถยนต์ 3M
ฟิล์ม V-Kool เป็นฟิล์มกรองแสงที่อยู่ในเมืองไทยเป็นระยะเวลานาน มีชื่อเสียงในเรื่องฟิล์มใสกันความร้อนสูง ผลิตจากบริษัท Eastman Chemical จากอเมริกาโดยตรง ฟิล์ม V-Kool รุ่น VK series เป็นฟิล์มกรองแสงยี่ห้อเดียวที่เนื้อฟิล์มมีส่วนผสมของทองคำ และเงิน ทำให้ไม่อมความร้อนเข้ามาในรถ เหมือนฟิล์มเซรามิกทั่วๆ ไป สามารถป้องกันรังสีความร้อนสูงสุด 99% และ รังสี UV สูงสุด 99% ได้รับการยอมรับจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก อาทิ IWFA, Skin Cancer Foundation
ราคาฟิล์มรถยนต์ 3M
ติดฟิล์มรถยนต์ราคารอบคันอยู่ที่ประมาณ 34,000 – 42,500 บาท
4. ฟิล์มติดรถยนต์ V-Kool
ฟิล์ม V-Kool เป็นฟิล์มกรองแสงที่อยู่ในเมืองไทยเป็นระยะเวลานาน มีชื่อเสียงในเรื่องฟิล์มใสกันความร้อนสูง ผลิตจากบริษัท Eastman Chemical จากอเมริกาโดยตรง ฟิล์ม V-Kool รุ่น VK series เป็นฟิล์มกรองแสงยี่ห้อเดียวที่เนื้อฟิล์มมีส่วนผสมของทองคำ และเงิน ทำให้ไม่อมความร้อนเข้ามาในรถ เหมือนฟิล์มเซรามิกทั่วๆ ไป สามารถป้องกันรังสีความร้อนสูงสุด 99% และ รังสี UV สูงสุด 99% ได้รับการยอมรับจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก อาทิ IWFA, Skin Cancer Foundation
ราคาฟิล์มรถยนต์ V-Kool
ติดฟิล์มรถยนต์ราคารอบคันอยู่ที่ประมาณ 34,000 – 42,500 บาท
5. ฟิล์มติดรถยนต์ Solar Gard
ฟิล์มกรองแสง Solar Gard จัดว่าเป็นฟิล์มกรองแสงระดับโลก ที่มีขายหลากหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ซึ่งทาง Solar Gard ถือได้ว่ามีเทคโนโลยีเชี่ยวชาญด้านการผลิตฟิล์มกรองแสงในอเมริกาจริงๆ และ ฟิล์มนำเข้ามาจากอเมริกาจริงๆ โดยรุ่นที่คนนิยมติดฟิล์มรถกันจะเป็นรุ่นท็อปอย่าง LX Series เป็นฟิล์มฉาบโลหะมีการทับซ้อนประจุโลหะถึง 9 ชั้น ทำให้ฟิล์มป้องกันรังสีอินฟราเรดได้มากถึง 97% กันรังสียูวีได้ 99% ซึ่งถือว่าสูงมากๆ สามารถสะท้อนความร้อนออก ทำให้เวลาที่แสงอาทิตย์ตกกระทบไม่อมความร้อนอยู่ที่เนื้อฟิล์มและเนื้อกระจก เมื่อเวลาเราจอดรถตากแดดนานๆ หรือ จอดรถเวลารถติด จะไม่รู้สึกถึงไอร้อนที่เข้ามาภายในรถ
ราคาฟิล์มรถยนต์ Solar Gard
ติดฟิล์มรถยนต์ราคารอบคันอยู่ที่ประมาณ 28,000 – 42,000 บาท
หากคุณกำลังมองหา ร้านติดฟิล์ม SolarGard ใกล้คุณ ในเขตนวมินทร์ บางกะปิ กรุงเทพฯ และปริมลฑล 87Garage คือผู้เชี่ยวชาญด้านการติดฟิล์มรถยนต์ ฟิล์มเซรามิก ในราคาที่คุ้มค่า ติดฟิล์มคุณภาพสูง ในราคาย่อมเยาว์ เรามีทีมช่างที่เชี่ยวชาญประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ร้านเราตั้งอยู่ที่ปากซอย นวมินทร์ 87 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10240