อัพเดทล่าสุด 14/08/2023
กระบวนการ ขั้นตอนการเคลือบเซรามิก เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพื่อที่จะได้การปกป้องผิวรถที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีการดูแล ใส่ใจ และความชำนาญ มิฉะนั้น ถึงจะ เคลือบเซรามิก ราคาเท่าไหร่ ใช้น้ำยาแพงแค่ไหน รถก็จะไม่เงา การปกป้องก็ไม่ได้คุณภาพตามที่ควรจะเป็น ที่สำคัญระยะเวลาในการปกป้องก็จะสั้นลงด้วย
วันนี้ 87 Garage จะมาแนะนำขั้นตอนการเตรียมผิว และขั้นตอนการเคลือบเซรามิกของทางร้าน ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง และใช้เวลานานเท่าไหร่
ขั้นตอนการเคลือบเซรามิก By 87Garage
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%201024%20683%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E)
ขั้นตอนที่ 1 ล้างรถทำความสะอาดรอบที่ 1
การทำความสะอาดรอบแรก เป็นการขจัดสิ่งสกปรกบนพื้นผิวที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่า โดยจะต้องล้างสิ่งสกปรกที่เกาะผิวออกไปให้หมด ก่อนนำรถมาเคลือบ และยังเป็นการ ตรวจเช็คสภาพรถ เบื้องต้นอีกด้วย
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%201024%20683%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E)
ขั้นตอนที่ 2 ล้างรถทำความสะอาดรอบที่ 2
หลังจาก ทำความสะอาดรถ รอบแรกแล้ว เราก็จะมาทำความสะอาดรอบสอง ครั้งนี้จะเป็นการทำความสะอาดในส่วนที่เป็นคราบยางมะตอย คราบฝังลึกต่างๆ โดยทางร้านจะใช้น้ำยาถึง 2 ชนิดด้วยกัน คือ
1. CARPRO Tar-X เป็นน้ำยาทำความสะอาดคราบฝังลึก คราบแมลง คราบกาว คราบยางมะตอย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำอันตรายต่อสีผิวรถ พลาสติก โครเมี่ยม ช่วยร่นระยะเวลาในการล้างทำความสะอาด
2. CARPRO Iron-X เป็นน้ำยาทำความสะอาดล้อโดยเฉพาะ เนื่องจากการใช้รถของคุณในชีวิตประจำวันจะต้องเผชิญมลภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สิ่งสกปรก ฝุ่นเบรก ที่ติดแน่นไม่สามารถขัดออกได้ จะช่วยให้คราบต่างๆนั้น ล้างออกได้โดยง่าย และที่สำคัญไม่ทำให้ล้อรถเป็นรอย
ขั้นตอนที่ 3 ล้างทำความสะอาดรอบที่ 3
เมื่อทำความสะอาดคราบยางมะตอย คราบฝังลึกแล้ว ก็จะเป็นการลูบดินน้ำมันบนพื้นผิว เพื่อดึงสิ่งสกปรกหรือฝุ่นที่ฝังแน่นที่เราไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าเห็นบนผิวรถ อีกทั้งยังเป็นการช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับสภาพการขัดสีรถให้เงายิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 4 การทำให้แห้ง
อาจจะเป็นขั้นตอนที่หลายคนคิดว่าธรรมดาแต่จริงๆแล้วไม่ธรรมดา ขั้นตอนนี้ทาง 87Garage จะนำรถมาเป่าลม และเช็ดแห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ การใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เป็นผ้าที่มีเส้นใยสังเคราะห์นาโนเทคโนโลยี สามารถดูดซับน้ำได้ดี อีกทั้งยังจะช่วยเก็บฝุ่นไว้บนเนื้อผ้า ฝุ่นไม่ฟุ้งกระจาย และไม่ทำลายหรือทำให้สีผิวรถเกิดริ้วรอย อีกทั้งยังเป็นการตรวจสภาพร่องรอยรถไปในตัวก่อนการเคลือบ
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%201024%20683%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E)
ขั้นตอนที่ 5 การเตรียมรถก่อนปรับสภาพผิว การติดตั้งเทปกาว, การวัดระดับชั้นแลคเกอร์, การตรวจเช็ครอย
ในขั้นตอนนี้ ปรับสภาพผิวรถ จะเป็นการเตรียมสภาพรถให้พร้อมก่อนที่จะมีการใช้เครื่องมือในการขัด ใช้เทปกาวติดตั้งเพื่อปิดในส่วนที่เราไม่ต้องการขัดเอาไว้ และยังเป็นการกำหนดขอบเขตเนื้อที่ในการปฏิบัติงาน อีกทั้งยังมีการวัดระดับชั้นแลคเกอร์ก่อนการขัด เพื่อให้ทราบถึงชั้นแลคเกอร์ของรถก่อนการเคลือบ เพราะรถแต่ละคันออกจากศูนย์มีชั้นระดับแลกเกอร์ไม่เท่ากัน หรือรถทำสีใหม่ที่ต้องการจะเคลือบ เพื่อป้องกันการขัดสีลงถึงระดับชั้นสีของรถและใช้ไฟส่องตรวจเช็ครอยขนแมว รอยลึกต่างๆ ก่อนการขัด เนื่องจากรอยบางรอย เราไม่สามารถใช้ไฟห้องปกติในการมองเห็นรอยนั้นๆ ได้
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%201024%20683%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E)
ขั้นตอนที่ 6 การปรับสภาพสีผิวรถยนต์ ขัดสีเต็มระบบ
การขัดสีรถยนต์ของทางร้านจะขัดถึง 3 รอบ โดยจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ตามสภาพสีผิวของรถที่นำมาเคลือบเซรามิก คือ
1. การขัดหยาบ หรือ Cutting เป็นการขัดลบรอยหนัก เพื่อลบรอยขีดข่วนฝังลึก แก้ไขสภาพพื้นผิวของสีรถที่มีความเสียหาย ซึ่งช่างที่ทำจะต้องมีความเอาใจใส่และความชำนาญการอย่างมาก และยังต้องสามารถพิจารณาในการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม รวมถึงระดับความแรงในการขัด ซึ่งการขัดนี้สามารถ ปรับผิวส้มรถ ลบรอยขนแมวบนผิวรถได้ มีผลทำให้รถหลังการเคลือบเซรามิก ดูสดใส เงางามมากยิ่งขึ้น
2. การขัดละเอียด หรือ Remover Swirl เป็นการขัดละเอียด เพื่อลบรอยขนแมวและปรับสภาพสีผิวรถให้เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้จะทำหลังจากการขัดหยาบ และใช้อุปกรณ์ที่มีความละเอียดมากกว่า
3. การขัดชักเงา หรือ Finishing เป็นการขัดเพื่อชักเงา เพื่อดึงเฉดสีรถให้เงาฉ่ำ มีมิติ ทำให้รถมีความเรียบเนียน เมื่อเคลือบเซรามิกแล้ว สีผิวรถจะมีความเปร่งประกาย สดใส และเงางาม
ขั้นตอนที่ 7 การทำความสะอาดเพื่อล้างคราบน้ำยาขัด
ขั้นตอนนี้จะเป็นการ ทำความสะอาดรถยนต์ เพื่อล้างคราบน้ำยาขัด และใช้น้ำยาผลิตภัณฑ์ CARPRO Eraser เป็นน้ำยา IPA (ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ หรือ Isopropyl Alcohol) สำหรับขจัดคราบน้ำยาขัด คราบ Wax เก่าออก น้ำยา IPA จะเป็นตัวทำปฏิกิริยาละลาย Wax เดิมที่ตัวสีผิวรถทำให้สารเคลือบเซรามิกติดแน่นกับสีผิว อย่างไรก็ตามหากมี Wax เดิมอยู่ สารเคลือบเซรามิกจะไม่เกาะที่สีผิวรถจริงหรืออาจจะเกาะได้น้อย ทำให้สารเคลือบเซรามิกที่เคลือบไปแล้วนั้นมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าที่ควรจะเป็นและไม่ติดคงทน
ขั้นตอนที่ 8 การเคลือบเซรามิกชั้นที่ 1
การ เคลือบแก้ว กับ เคลือบเซรามิก ของทาง 87 Garage จะทำในห้องที่ปิดเฉพาะ มีแสงไฟ และอุณหภูมิอย่างเหมาะสมกับการเคลือบ เพื่อป้องกันฝุ่นต่างๆ ระหว่างการเคลือบ โดยผลิตภัณฑ์เคลือบเซรามิกของทางร้านจะประกอบไปด้วย 3 แพคเกจ คือ
1. CARPRO Cquartz UK 3.0 (การรับประกัน : 2 ปี, เคลือบเซรามิก : 2 เลเยอร์, การเซอร์วิส : 4 ครั้ง)
2. CARPRO Professional (การรับประกัน : 3 ปี, เคลือบเซรามิก : 2 เลเยอร์, การเซอร์วิส :6 ครั้ง)
3. CARPRO Finest Reserve (การรับประกัน : 5 ปี, เคลือบเซรามิก : 3 เลเยอร์, การเซอร์วิส : 10 ครั้ง)
(ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม คลิกที่นี่)
ซึ่ง ผลิตภัณฑ์เคลือบเซรามิก CARPRO เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีความโดดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีนาโนเซรามิก ที่มีควอซ์บริสุทธิ์เป็นส่วนผสมอยู่ถึง 70% มากที่สุดในผลิตภัณฑ์เคลือบเซรามิกด้วยกัน ให้ความแข็งของชั้นเคลือบและเพิ่มความเงางามเป็นพิเศษ มีความต้านทานต่อสารเคมีที่มีค่าความเป็นกรด-ด่าง ตั้งแต่ 3-14pH ลดการเกิดรอยขนแมว คราบน้ำ ทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษารถยนต์ ในขั้นตอนการเคลือบทาง 87Garage จะใช้ทั้งระบบทาและระบบพ่น เพื่อเพิ่มความหนาแน่นและการทั่วถึงของการเคลือบเซรามิกรถยนต์
ขั้นตอนที่ 9 การเคลือบเซรามิกชั้นที่ 2
หลังจากเคลือบเซรามิกแล้ว ทาง 87Garage ได้เพิ่มการเคลือบผิวบนชั้นเซรามิกอีกชั้นด้วย CARPRO Gliss น้ำยาตัวนี้จะช่วยเพิ่มความลื่น และความเงางามของสีรถ เป็นสารเคลือบนาโนเทคโนโลยี สำหรับการเคลือบบนชั้นน้ำยาเคลือบเซรามิกอีกทีหนึ่ง นอกจากจะช่วยเพิ่มความลื่นและความเงางามแล้ว ยังมีคุณสมบัติต้านทานต่อไฟฟ้าสถิตทำให้ฝุ่นไม่เกาะ และยังช่วยเพิ่มการป้องกันคราบน้ำ น้ำวิ่งเป็นเมล็ดกลม ช่วยในเรื่องของการทำความสะอาดที่ง่าย เพียงแค่ฉีดน้ำสิ่งสกปรกก็ถูกชำระล้างออกไป แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของสารเคลือบเซรามิกอีกด้วย
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%201024%20683%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E)
ขั้นตอนที่ 10 การเคลือบล้อและส่วนพลาสติกอื่นๆ เช่น ล้อรถยนต์ โคมไฟ ยางกันกระแทก ท่อไอเสีย
จะดีกว่าไหมหากใช้น้ำยาเคลือบที่ถูกออกแบบมาสำหรับล้อรถยนต์โดยเฉพาะ ที่ร้าน 87Garage เราใช้น้ำยาเคลือบ CARPRO Cquartz Dlux ที่เหมาะสำหรับล้อรถยนต์ ผลิตจาก Organic Silane คุณภาพสูงที่มีส่วนผสมของซิลิกาบริสุทธิ์มากกว่า 50% และยังทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงมาก เป็นผลิตภัณฑ์ในการปกป้องล้อโดยเฉพาะ เนื่องจากล้อเป็นส่วนที่มีความร้อนสะสมจึงจำเป็นต้องใช้สารเคลือบเฉพาะทาง หากเป็นการเคลือบแบบทั่วไปสารเคลือบจะถูกล้างออกภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือน แต่ CARPRO Cquartz Dlux ได้รับการทดสอบทั่วโลกว่าสามารถปกป้องล้อรถคุณได้ยาวนานนับปี ช่วยป้องกันรังสี UV ได้อย่างดีเยี่ยม ทนความร้อนได้สูงถึง 400 กว่าองศาเซลเซียส
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%201024%20683%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E)
ขั้นตอนที่ 11 การเคลือบกระจกรถยนต์
ในขั้นตอนนี้ทาง 87Garage จะเคลือบกระจกรถยนต์ด้วย ผลิตภัณฑ์ CARPRO Flyby เป็นน้ำยาเคลือบที่ถูกออกแบบมาสำหรับกระจกโดยเฉพาะ ให้ความเงาใสชัดเจน และยังป้องกันคราบน้ำ ฝุ่น มูลนก สารเคมี และสิ่งสกปรกอื่นๆเป็นพิเศษ โดยไม่ทำลายพื้นผิวกระจก ถูกใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภทเช่น รถยนต์ เรือเดินทะเล เครื่องบิน มีสารเคลือบ Hydrophobic น้ำวิ่งเป็นเม็ดกลม มีความทนทานต่อแรงเสียดสีระหว่างใบปัดน้ำฝนและกระจกรถ สารเคลือบมีความทนทานที่ยาวนานสูงมากถึง 2 ปี
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%201024%20683%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E)
ขั้นตอนที่ 12 การอบอินฟาเรด
หลังจากการ เคลือบเซรามิก แล้วทางร้านจะอบอินฟราเรดในห้องปิดเฉพาะสำหรับป้องกันฝุ่นละอองต่างๆ และเพื่อการเซ็ตตัวของน้ำยาเคลือบที่ดีขึ้น และย่นระยะการเซ็ตตัวของน้ำยา
หลังจากอบอินฟาเรดแล้วทางร้านจะทำการเคลือบภายในห้องผู้โดยสารรอบคันด้วยน้ำยา Treatment Conditioner และตรวจสภาพเช็ครถยนต์หลังเคลือบก่อนส่งมอบรถให้ลูกค้า
ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนการ เคลือบเซรามิกของทางร้าน 87Garage และการบริการหลังการขายของเราต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง หากคุณสงสัยหรือต้องการข้อมูลใน เคลือบเซรามิก ยี่ห้อไหนดี เราข้อแนะนำ CARPRO Flyby ที่เราบริการภายในร้านของเราการจะเสียเงินทั้งทีอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับการดูแลรถที่คุณรัก แต่อย่างไรก็ตามเงินที่คุณสูญเสียไป จะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแน่นอนครับ
ข้อควรระวังของการเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก
- เลือกร้านที่ได้มาตรฐาน
ศูนย์บริการเคลือบแก้ว หรือเคลือบเซรามิก ต้องมีความน่าเชื่อถือ ทั้งในด้านของสถานที่ อุปกรณ์ที่ทางร้านใช้ ช่างดำเนินการที่มีประสบการณ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ต้องมีมาตรฐาน
- ผลิตภัณฑ์ที่ทางร้านเลือกใช้
ควรเลือกศูนย์บริการที่มีผลิตภัณฑ์เคลือบแก้ว หรือเคลือบเซรามิกที่มีข้อมูลอ้างอิงที่ชัดเจนมีมาตรฐาน ผู้บริโภคสามารถสืบค้นหาข้อมูลตามอินเตอร์เน็ตได้ก่อนทำการตัดสินใจ มีข้อมูลแหล่งการผลิตหรือประเทศนำเข้า เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้บริโภคเองในการตัดสินใจเบื้องต้น สำหรับการเลือกคุณภาพของงานเคลือบแก้ว หรือเคลือบเซรามิก
- รายละเอียดขั้นตอนวิธีทำ
โดยทั่วไปแล้ว หากราคาเคลือบเซรามิกของศูนย์บริการมีราคาที่ใกล้เคียงกัน หรือน้ำยาแต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันหรือเหมือนกัน ลูกค้าควรสอบถามศูนย์บริการเกี่ยวกับรายละเอียดขั้นตอนวิธีทำ รวมถึงการบริการหลังการขายและเงื่อนไขการรับประกันในแต่ละศูนย์บริการว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้เราได้รับคุณภาพและการดูแลของงานเคลือบออกมาดีที่สุด อาจขอดูผลงานเคลือบของร้านเพิ่มเติมเพื่อเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น
- ราคาในการเคลือบเซรามิกรถยนต์
ในปัจจุบัน ราคาเคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิก มีความหลากหลายตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งเราไม่สามารถนำมาชี้วัดคุณภาพของงานเคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกได้ ราคาถูก ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผลงานเคลือบที่ดีที่สุด หรือราคาแพงก็ไม่ได้แปลว่าจะได้ผลงานเคลือบที่คุ้มค่าที่สุด เนื่องจากต้นทุนแต่ละร้านไม่เหมือนกัน เช่นค่าน้ำยา ค่าอุปกรณ์ ค่าพนักงาน ค่าเช้าร้าน ซึ่งการเลือกศูนย์บริการต้องได้ราคาและคุณภาพที่ทัดเทียมกัน โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งผลิตภัณฑ์เคลือบแก้วหรือเซรามิก คุณสมบัติของน้ำยาเคลือบ ความน่าเชื่อถือของศูนย์บริการ ประสบการณ์หรือฝีมือของช่าง ตลอดจนการบริการหลังการขาย และความรับผิดชอบในกรณีหากเกิดข้อผิดพลาดกับรถของคุณ ให้สมกับที่คุณจ่ายเงินไปแล้วพอใจกับผลงานที่ได้รับ
ข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก
การเคลือบเซรามิกรถยนต์เป็นวิธีที่ดีในการปกป้องสีรถของคุณและทำให้รถดูใหม่ได้นานขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมี ข้อควรระวัง เคลือบแก้ว และข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเคลือบเซรามิกรถของคุณ นี่คือข้อเสียบางประการของการเคลือบเซรามิก :
- การเคลือบแก้วหรือเซรามิกไม่ได้อยู่คงทนถาวร เนื่องจากเป็นวิธีปกป้องสีรถแบบ Semi-Permanent เมื่อใช้ไปในระยะหนึ่งสารเคลือบสามารถหลุดออกไปได้ แต่จะเป็นการค่อยๆ หลุดในลักษณะสึกกร่อนตามธรรมชาติจากการใช้งาน ทำให้ชั้นเคลือบสึกออกไป แต่ไม่ได้เป็นการลอกออกแบบครั้งเดียวทั้งหมด
- การเคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกไม่สามารถกันรอยขีดข่วนหนัก หรือกันรอยสะเก็ดหิน รอยเบียด หรือรอยเฉี่ยวชนได้ เนื่องจากหน้าที่หลักของการเคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิก คือการป้องกันริ้วรอยขนแมวบางๆ ป้องกันคราบสกปรกต่างๆ และช่วยให้การดูแลล้างทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทำให้รถเงางามอยู่ตลอดเวลา
แนะนำ 87Garage ร้านเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิกที่ดีที่สุด มีมาตรฐานรับประกันคุณภาพ ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี
“87Garage” ศูนย์บริการดูแลรักษารถยนต์ครบวงจร ร้านเคลือบแก้ว เราเคลือบแก้วเซรามิกความแข็งระดับ 9H – 10H ทั้งระบบทาและระบบพ่นเคลือบ 3 ชั้น ด้วยสารเคลือบแบรนด์ดังระดับโลก ติดอันดับน้ำยาเคลือบเซรามิกที่ดีที่สุด ได้รับการรับรอง CARPRO CQ Installer อย่างเป็นทางการในไทย พร้อมการขัดสีปรับสภาพผิวรถยนต์ก่อนเคลือบเต็มระบบเพื่อเพิ่มความเงาถึงขีดสุด โดยช่างผู้ชำนาญการและทีมงานมืออาชีพ พร้อม ใบรับประกันเคลือบแก้ว จากบริการหลังการขายจากทาง ร้านเคลือบแก้วรถยนต์ ของเรา
ห้องเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก อุปกรณ์ครบคันทันสมัย
ผลิตภัณฑ์และ อุปกรณ์เคลือบผิว ที่ทางร้าน 87Garage เลือกใช้เป็นแบรนด์ดังระดับโลกและได้รับมาตรฐานสากล รวมถึงห้องปฏิบัติการที่เป็น ห้องเคลือบแก้ว ระบบปิดที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเหมาะสำหรับการทำงาน มีระบบ ไฟห้องเคลือบแก้ว ที่ครอบคลุมสว่างเพียงพอต่อการทำงานทั้งไฟสีขาวและไฟสีส้มเพื่อการทำงานอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ คุณลูกค้าสามารถมั่นใจได้ในคุณภาพและการบริการของเรา