เคล็ดไม่ลับ วิธีดูแลรถช่วงหน้าฝน ให้พร้อมใช้งาน ปลอดภัยทุกการขับขี่

อัพเดทล่าสุด 14/08/2023

รถยนต์ ยานพาหนะที่มีความจำเป็น และมีความสำคัญสำหรับการเดินทางบนท้องถนน ยิ่งเข้าสู่ช่วงหน้าฝนคุณต้อง ขับรถลุยน้ำ ที่ทำให้เกิดปัญหาถนนลื่น จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่มากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะป้องกันอุบัติเหตุต่าง ๆ บนท้องถนน และสำหรับวิธีการ ดูแลรถหน้าฝน ให้พร้อมใช้งาน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ไม่ควรมองข้าม หากท่านมีวิธีการดูแลรถที่ดี ก็จะเป็นตัวช่วยทำให้ท่านหมดกังวล และปลอดภัยทุกการขับขี่ตลอดเส้นทาง

เทคนิค ดูแลรถหน้าฝน มีอะไรบ้าง ตามไปส่องเลย

สำหรับวิธีดูแลรถคู่ใจ วิธีดูแลรถช่วงหน้าฝน ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ถ้าหากมีสมรรถนะของรถไม่พร้อมที่จะใช้งาน ก็ย่อมทำให้เกิดความเสี่ยง และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ง่าย ๆ ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวม เทคนิคการดูแลรถ ช่วงหน้าฝน ให้ทุกท่านได้ขับขี่อย่างมีความปลอดภัย จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลย 

1. ตรวจเช็กสภาพใบปัดน้ำฝนหน้ารถยนต์

ใบปัดน้ำฝน เป็นสิ่งที่มีความสำคัญโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ช่วงฝนตกหนัก ไม่สามารถมองเห็นสภาพภายนอกได้ดีพอสมควร วิธี ดูแลรถหน้าฝน จึงจะต้องหมั่นตรวจเช็กใบปัดน้ำฝนและ วิธีไล่ฝ้าในรถยนต์ ว่ายังมีสภาพดีอยู่หรือไม่ หากที่ปัดน้ำฝนเสื่อม สามารถสังเกตได้ง่ายๆ เมื่อปัดแล้วจะมีเสียงดัง ทำให้กระจกรถเป็นรอย เพราะส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี ก็จะต้องเปลี่ยน หากฝืนที่จะใช้ต่อทำให้กระจกรถเป็นรอยมากขึ้นและส่งผลกับการ  และยิ่งช่วงหน้าฝนอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

2. การดูแลรถช่วงหน้าฝน ควรตรวจเช็กที่บรรจุน้ำฉีดกระจก

ควรตรวจเช็กที่บรรจุน้ำฉีดกระจก สม่ำเสมอ วิธีการดูแลสามารถทำเองได้ง่ายๆ เพียงท่านเปิดฝากระโปรงหน้ารถแล้วดูระดับน้ำฉีดกระจก จะต้องไม่เหลือน้อยจนเกินไป และควรเติมน้ำอยู่เสมอ อาจจะผสมน้ำยาล้างกระจกแบบเจือจางได้นิดหน่อย เพื่อที่จะเป็นตัวช่วยเพิ่มทำให้กระจกใสยิ่งขึ้น เพื่อพร้อมต่อการใช้งานช่วงหน้าฝน 

3. ตรวจเช็กระบบเบรกล้อ สึก – เสื่อม

ดูแลรถหน้าฝน ควรตรวจเช็กระบบ เบรครถ อยู่สม่ำเสมอ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพราะระบบเบรกสามารถช่วยหยุดรถ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงได้ ดังนั้นควรมีการเช็กผ้าเบรก และน้ำมันเบรกสม่ำเสมอ ทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร และจะต้องมีการตรวจสอบทุกครั้งว่าการทำงานของเบรกสามารถทำงานได้ปกติหรือไม่ ยิ่งช่วงหน้าแล้วเกิดถนนลื่น หากผ้าเบรกสึก – เสื่อม ก็จะส่งผลทำให้เบรกจมลึกกว่าปกติ หรือเบรกแล้วมีเสียงดัง ไม่ควรละเลยไว้ ควรนำรถเข้าตรวจสภาพเลยทันที

4. ตรวจเช็กลมยาง และยางรถยนต์  

ยางรถยนต์ และลมยาง เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ควรตรวจเช็กอยู่สม่ำเสมอ เมื่อสภาพยางรถอ่อน หรือไม่พร้อมต่อการใช้งาน ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นไถลได้ขณะเข้าโค้ง ยิ่งช่วงหน้าฝนอีกด้วย ก็มีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะยางรถที่เสื่อมสภาพ จะไม่มีประสิทธิภาพรีดน้ำบนถนน และการทรงตัวได้  สำหรับวิธี การดูแลรถช่วงหน้าฝน สามารถตรวจเช็กลมยาง และสภาพยางรถยนต์ ด้วยตนเองได้ง่ายๆ เมื่อสังเกตแล้วดอกยางต่ำกว่า 2.5 มิลลิเมตร หรือยางรถของท่านมีอายุการใช้งานมากกว่า 3 ปี ก็ควรเปลี่ยนเป็นยางเส้นใหม่เลยทันที

5. เช็กระบบไฟสัญญาณรถยนต์

ลดการเกิดอุบัติเหตุช่วงหน้าฝน ดูแลรถหน้าฝน ต้องตรวจเช็กระบบไฟสัญญาณรถยนต์ ว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ควรเปิดไฟหน้ารถขณะขับขี่ และไฟอื่น ๆ ที่มีความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟสูง ไฟต่ำ ไฟเบรก ไฟฉุกเฉิน ไปถอยหลัง ไฟตัดหมอก ว่ายังสามารถใช้งานปกติได้อยู่หรือไม่ เพราะไฟทุกหลอดภายในรถ ล้วนมีความสำคัญมากต่อการขับขี่ หากพบว่าหลอดไฟไม่สมบูรณ์ ก็จะต้องรีบเปลี่ยนทันที

6. ห้ามจอดรถใต้ต้นไม้

ช่วงหน้าฝนที่มาพร้อมกับมรสุม ลมพายุฝน เป็นอีกสาเหตุที่คาดไม่ถึงที่กิ่งไม้ร่วงหล่นมาโดนรถได้ หากปล่อยรถไว้ในสภาพแบบนั้น ก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน เพราะเมื่อเกิดความโชคร้ายมีกิ่งไม้ใหญ่หล่นลงมาก็จะทำให้รถเสียหาย และอาจจะเกิดอุบัติเหตุกับท่านได้ ทางที่ดี วิธีดูแลรถช่วงหน้าฝน ควรหลีกเลี่ยงจอดรถใต้ต้นไม้

7. ไม่ควรขับรถเร็วมากจนเกินไป ควรมีสติตลอดเวลา

นอกจาก การดูแลรถช่วงหน้าฝน แล้ว เมื่อท่านขับขี่รถช่วงหน้าฝน แน่นอนเลยว่าปัญหาที่ตามมา ก็คืออาจจะทำให้มองทัศนวิสัยภายนอกไม่เห็นชัดเจน ดังนั้นควรปรับระดับความเร็วให้มีความเหมาะสม ไม่ควรขับรถที่ท้ายรถคันหน้าจนเกินไป ไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหัน และที่สำคัญต้องมีสติตลอดเวลาขณะขับรถ ไม่ควรประมาท จับพวงมาลัยให้มั่น หากมีการระมัดระวังที่ดี และไม่ประมาท ก็สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยทุกการเดินทาง

สำหรับวิธีการ ดูแลรถหน้าฝน ต้องหมั่นดูแลรักษา ตรวจเช็กสภาพเป็นประจำ เพื่อทำให้ขับขี่ปลอดภัยทุกการเดินทาง สำหรับบทความที่เราได้กล่าวไปในเบื้องต้น หากท่านนำเอาไปทำตาม รับรองเลยว่าทุกการขับขี่ของท่าน ไม่ว่าจะช่วงฤดูฝน หรือฤดูอื่น ๆ ก็จะมีความปลอดภัยตลอดเส้นทางอย่างแน่นอน